แมกนีเซียม (Magnesium) คือแร่ธาตุสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของร่างกายมากกว่า 300 กระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นระบบประสาท กล้ามเนื้อ หัวใจ สมอง การนอนหลับ ฮอร์โมน รวมถึงการสร้างพลังงานในระดับเซลล์ แม้จะเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างมาก แต่คนไทยจำนวนมากกลับได้รับ “แมกนีเซียมไม่เพียงพอ” จากอาหารประจำวัน

ผลที่เกิดขึ้นคือ ร่างกายเริ่มส่งสัญญาณเตือนหลายอย่าง ซึ่งหลายคนไม่รู้ว่าเป็นอาการของการขาดแมกนีเซียม บางคนไปตรวจเลือดก็ไม่พบ เพราะระดับแมกนีเซียมในเลือดไม่สะท้อนระดับแมกนีเซียมในเซลล์จริง ๆ ทำให้สัญญาณเตือนเหล่านี้ถูกมองข้ามเป็นเวลานาน

บทความนี้จะสรุปให้ครบที่สุดว่า
อาการของการขาดแมกนีเซียมมีอะไรบ้าง?
โดยแบ่งตามระบบในร่างกาย พร้อมคำอธิบายง่าย ๆ และตัวอย่างอาการในชีวิตจริง รวมถึงคำแนะนำว่าควรป้องกันหรือแก้ไขอย่างไร

⭐ ทำไมถึงขาดแมกนีเซียมง่าย?

ก่อนรู้ว่า “อาการอะไร” เกิดขึ้น ต้องเข้าใจเหตุผลว่าทำไมร่างกายถึงขาดแมกนีเซียมได้ง่ายกว่าที่คิด:

• ความเครียดสูง

• นอนน้อย

• ดื่มกาแฟ/ชา/แอลกอฮอล์เป็นประจำ

• ออกกำลังกายหนัก

• อาหารแปรรูปมาก

• ดื่มน้ำไม่พอ

• เสียเหงื่อมากในอากาศร้อน

• ระบบย่อยทำงานไม่ดี

• ผักผลไม้ปลูกในดินที่แร่ธาตุน้อยลง

ดังนั้นคนทำงานยุคใหม่จึง “เสี่ยงขาดแมกนีเซียมเรื้อรัง” โดยไม่รู้ตัว

⭐ อาการของการขาดแมกนีเซียมมีอะไรบ้าง? (แบ่งเป็น 8 หมวดหลัก)

เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบอาการของตัวเอง บทความนี้จะแบ่งเป็น 8 หมวดใหญ่ตามระบบในร่างกาย

🔶 1) อาการที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท (Nervous System)

แมกนีเซียมคือแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยคุมสมดุลของระบบประสาท โดยเฉพาะสารสื่อประสาทที่ช่วยให้สงบ เช่น GABA หากขาด จะเกิดอาการดังนี้:

✔ นอนไม่หลับ

• หลับยาก

• สมองไม่ปิด

• คิดวนซ้ำ

• ตื่นง่ายกลางดึก

✔ วิตกกังวลง่าย

• ใจเต้นเร็วเมื่อเครียด

• รู้สึกกังวลง่ายผิดปกติ

✔ ระบบประสาทไวเกิน

• สะดุ้งง่าย

• หงุดหงิดง่าย

• รำคาญเสียงหรือแสง

✔ สมองล้า (Brain Fog)

• คิดช้าลง

• พูดผิด ๆ ถูก ๆ

• ลืมง่าย

สัญญาณนี้มักเกิดในคนที่ทำงานหนัก หรือนอนไม่พอเป็นประจำ

🔶 2) อาการที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ (Muscle System)

แมกนีเซียมช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว
ขาดแมกนีเซียมเมื่อไร กล้ามเนื้อจะหดเกร็งผิดปกติทันที

✔ ตะคริวบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน

เป็นอาการที่บ่งชี้ชัดมาก

✔ กล้ามเนื้อกระตุกตามตัว

โดยเฉพาะ “ใต้ตากระตุก” คือสัญญาณยอดฮิตของคนขาดแมกนีเซียม

✔ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเรื้อรัง

กล้ามเนื้อแข็ง ไม่คลายตัว

✔ อ่อนแรงง่าย

เดินนิดเดียวก็รู้สึกล้าเพราะร่างกายผลิตพลังงานได้ไม่ดี

🔶 3) อาการเกี่ยวกับหัวใจและระบบไหลเวียน (Cardiovascular System)

ขาดแมกนีเซียม = ระบบไฟฟ้าหัวใจไม่สมดุล

✔ ใจสั่นผิดปกติ

หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นไม่สม่ำเสมอ

✔ หัวใจเต้นสะดุด

บางคนรู้สึกเหมือนหัวใจ “ขาดจังหวะ”

✔ ความดันสูงขึ้น

หลอดเลือดหดตัวมากเกินไปจากการขาดแมกนีเซียม

✔ อ่อนเพลียแบบไม่มีสาเหตุ

หัวใจทำงานหนักขึ้น → ร่างกายล้า

🔶 4) อาการเกี่ยวกับการนอนหลับ (Sleep System)

แมกนีเซียมต่ำ = ฮอร์โมนนอนหลับทำงานแย่ลง
ระบบประสาทตื่นตัวเกินไป

✔ หลับไม่ลึก

✔ ตื่นกลางดึกซ้ำ ๆ

✔ ตื่นแล้วไม่สดชื่น

✔ กระสับกระส่ายก่อนนอน

ใครที่มีอาการกลุ่มนี้เกือบทุกวัน มักมีระดับแมกนีเซียมต่ำกว่าปกติ

🔶 5) อาการเกี่ยวกับอารมณ์และฮอร์โมน (Mood & Hormonal System)

แมกนีเซียมช่วยสร้าง serotonin และ dopamine ถ้าขาด → อารมณ์เสียสมดุล

✔ หงุดหงิดง่าย

✔ อารมณ์แปรปรวน

✔ เครียดง่าย

✔ ภาวะซึมเศร้าเล็กน้อย

✔ PMS รุนแรงมากขึ้นในผู้หญิง

เช่น ปวดท้องมากกว่าปกติ อารมณ์แย่ นอนไม่หลับ

🔶 6) อาการเกี่ยวกับการย่อยอาหาร (Digestive System)

แมกนีเซียมช่วยควบคุมการบีบตัวของลำไส้

✔ ท้องผูก

✔ ท้องอืด แน่น

✔ อาหารย่อยช้ากว่าปกติ

หลายคนค้นพบทีหลังว่าท้องผูกจาก “ขาดแมกนีเซียม” ไม่ใช่จากกากใยไม่พอ

🔶 7) อาการเกี่ยวกับผิวและภูมิคุ้มกัน (Skin & Immune System)

แมกนีเซียมต่ำ = ร่างกายอักเสบง่าย

✔ ผิวแห้ง

✔ สิวจากความเครียด

✔ ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นหวัดง่าย

✔ ร่างกายฟื้นตัวช้าหลังป่วย

พบมากในคนที่ทำงานหนักและนอนดึก

🔶 8) อาการอื่น ๆ ที่พบได้บ่อย

✔ เหนื่อยง่าย

แม้จะนอนครบ 7–8 ชั่วโมงก็ยังเพลีย เพราะ ATP (พลังงานเซลล์) ต้องใช้แมกนีเซียม

✔ มือเท้าชา

เกี่ยวกับการส่งสัญญาณปลายประสาทผิดปกติ

✔ หัวหมุน วิงเวียน

เกิดจากความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์

✔ ปวดหัวเรื้อรัง

เกิดจากเส้นเลือดหดตัวมากเกินไป

⭐ เช็กตัวเอง: แบบประเมินสั้น ๆ ว่าคุณขาดแมกนีเซียมไหม?

ตอบคำถามง่าย ๆ 10 ข้อ:

1. นอนหลับไม่ลึก?

2. มีตะคริวตอนกลางคืน?

3. ใต้ตากระตุกบ่อย?

4. เครียดง่ายหรือวิตกกังวลง่าย?

5. ใจสั่นเป็นครั้งคราว?

6. ปวดหัว/ไมเกรนบ่อย?

7. อ่อนเพลียแม้พักผ่อนเพียงพอ?

8. ท้องผูกหรือระบบย่อยไม่ดี?

9. ทำงานดึก ใช้คาเฟอีนบ่อย?

10. ออกกำลังกายจนเหงื่อออกมาก?

ถ้าตอบ “ใช่” มากกว่า 4 ข้อ → มีความเสี่ยงสูงว่าร่างกายกำลังขาดแมกนีเซียม

⭐ แล้วควรเสริมแมกนีเซียมแบบไหนดี?

ไม่ใช่แมกนีเซียมทุกชนิดเหมือนกัน ฟอร์มที่ต่าง = ผลลัพธ์ต่าง

ฟอร์มที่เหมาะกับอาการเหล่านี้ที่สุดคือ:

✔ Magnesium Glycinate (Chelated Form)

เพราะดูดซึมดี อ่อนโยน ไม่ระคายท้อง ช่วยระบบประสาทและการนอนโดยตรง

หนึ่งในวัตถุดิบคุณภาพสูงคือ
NovoMin® Magnesium Glycinate 200 mg จากอเมริกา

⭐ ทำไมหลายคนเลือกสูตร “MAGUS 5+1” เพื่อแก้อาการขาดแมกนีเซียม?

เพราะอาการของการขาดแมกนีเซียมเกิดหลายระบบพร้อมกัน เช่น นอน–หัวใจ–กล้ามเนื้อ–พลังงาน
จึงต้องใช้ “หลายฟอร์มร่วมกัน” เพื่อซ่อมจุดต่าง ๆ ของร่างกาย

MAGUS 5+1 ประกอบด้วย:

✔ Glycinate (หัวใจ–นอน–ประสาท)

✔ Malate (พลังงาน)

✔ Citrate (ขับถ่าย)

✔ Chelate (ดูดซึมง่าย อ่อนโยน)

✔ Oxide ในปริมาณเหมาะสม (เพิ่มระดับรวม)

✔ Vitamin B6 (ช่วยระบบประสาทและการใช้แมกนีเซียม)

จึงเหมาะกับคนที่มีหลายอาการพร้อมกัน เช่น

– นอนไม่ลึก
– ใจสั่น
– ตะคริว
– สมองล้า
– เครียดจัด
– พลังงานต่ำ
– PMS
– ท้องผูก

ให้ผล “ครอบคลุมกว่าแมกนีเซียมแบบฟอร์มเดียว”

⭐ สรุป: อาการของการขาดแมกนีเซียมมีอะไรบ้าง?

หากคุณมีอาการเหล่านี้บ่อย ๆ มีโอกาสที่ร่างกายกำลังขาดแมกนีเซียม:

✔ ตะคริว / กล้ามเนื้อกระตุก
✔ ใต้ตากระตุก
✔ นอนไม่หลับ / หลับไม่ลึก
✔ เครียดง่าย / วิตกกังวล
✔ ใจสั่น
✔ ปวดหัวไมเกรน
✔ อ่อนเพลีย
✔ หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน
✔ ท้องผูก
✔ สมองล้า ขี้ลืม
✔ เหนื่อยง่าย
✔ มือเท้าชา

หากมีหลายข้อร่วมกัน การเสริมแมกนีเซียมฟอร์มดูดซึมดี เช่น Magnesium Glycinate หรือสูตรหลายฟอร์มอย่าง MAGUS 5+1 ช่วยฟื้นสมดุลของระบบประสาทและพลังงานได้อย่างเห็นผล